X65F Review

ครับจากเอนทรี่ ที่แล้ว

https://arvinman.me/archives/207

หลังจากลองเล่นมาเป็นเวลากว่าครึ่งเดือน ก็พบข้อดีข้อด้อยต่างๆ ของ X65F ก็เลยจะมาเล่าสู่กันฟังว่า HOTAS ตัวนี้มันมีดียังไงกันบ้าง

ก่อนอื่นต้องเล่าถึงคุณสมบัติของ HOTAS ตัวนี้สักนิดว่า เป็น ของบริษัท Saitek ที่มีชื่อรู้จักกันดีในหมู่คนที่เล่นอุปกรณ์เสริมสำหรับเกมแนวซิมูเลเตอร์ต่างๆ และ X65F ได้ใช้เทคโนโลยีแบบเดียวกับที่เครื่องบิน F-16, F-22 ใช้นั่นคือ ForceSensing

Force Sensing เป็นกลไกแบบใหม่ในการตรวจวัด ว่าเราผลัก Joystick ไปมากน้อยแค่ไหน ซึ่งระบบดังกล่าวทำให้ตัว Stick นั้นไม่ต้องมีการเคลื่อนไหวใดๆ ทั้งนั้น แต่จะใช้การจับแรงที่เราผลัก หรือบิดตัว Stick เอาว่าเราออกแรงมากน้อยแค่ไหน ตัว Stick ก็จะทำการแปลงสัญญาณเหล่านั้นออกมาเป็นค่าการเคลื่อนที่ของเรา

สิ่งที่ Saitek อ้างเอาไว้ถึงข้อดีของระบบ Force Sensing คือ หนึ่ง มันทำให้ Stick มีความคงทนมากกว่าเดิมเพราะไม่มีชิ้นส่วนที่ต้องเคลื่อนไหว จึงไม่มีการเสื่อมของข้อต่อ หรือเฟืองหมุนต่างๆ เหมือนอย่างชุด Joystick อื่นๆ ที่ใช้กัน สอง มันช่วยทำให้การควบคุมเครื่องบินนั้นแม่นยำ และมีประสิทธิภาพมากขึ้น

แต่ข้อเสียของ X65F ที่ใช้ Force Sensing คงหนีไม่พ้นการที่มันไม่มี Force Feed Back ดังนั้นใครที่ Force Feed Back สำคัญขนาดเป็นเรื่องคอขาดบาดตาย ชีวิตนี้ขาดไม่ได้ นั้นให้ลืมชุด X65F ไปได้เลย และแนะนำให้ไปหา Logitech G940 มาใช้แทนครัฟ

มาดูหน้าตาเต็มๆ กันสักนิด

รูปเสีย

ด้านหน้าและด้านหลัง รูปอาจจะมืดไปสักนิด

รูปเสีย

Throttle

รูปเสีย

Hat Switch สามารถถอดเปลี่ยนสลับตำแหน่งได้

รูปเสีย

มีตัวล็อกเล็กๆ ที่จะล็อก Throttle ทั้ง 2 อัน สำหรับเครื่องบิน 1 ไอพ่น

 

สรุปปุ่มทั้งหมดที่มีนะครับ ยกมาจาก Official Website แล้วก็เขียนเติมๆ ไปให้มันครบๆ

  • Stick
    • 3 x 8-way hats
    • 1 x 8-way thumb hat
    • 1 x trigger
    • 2 x buttons
    • 2 x pinkie switches
  • Throttle
    • 2 x rotaries (incorporating push button controls)
    • 1 x mouse hat (เป็น left mouse button ด้วยในตัว)
    • 4 x 8-way hats
    • 1 x 2 way ‘K’ switch
    • 1 x scroll selector (mouse scroll)
    • 1 x 4 position mode switch
  • Panel
    • 4 Force Sense Setting
    • 4 Control Button
    • 1 Eject Button

ข้อสังเกต

  • มี mouse scroll แต่ไม่มี middle mouse button ครับ ไม่เหมือน X52 ที่ mouse scroll บน Throttle สามารถกดลงไปเป็น middle mouse button ได้
  • Hat Switch สามารถถอดเปลี่ยนฝาสลับกันได้ แต่ Saitek ไม่ได้ให้ชิ้นส่วนฝาอื่นๆ มาให้ด้วย (น็อตที่ใช้ยึดตัว Hat Switch จะเป็นน็อตหัว 6 เหลี่ยม ซึ่งในชุดจะมี เหล็กแท่งรูป 6 เหลี่ยม สำหรับเอามาขันน็อตเหล่านี้ออกได้)
  • Trigger บน Stick เป็นแบบ Single State ไม่ได้เป็นแบบ Dual State เหมือน X52 ที่กดน้อย กับกดเต็มที่ จะถือเป็นคนละปุ่ม
  • มีปุ่ม lock throttle ถ้าต้องการใช้กับเครื่องบิน 2 ไอพ่น หรือ 2 เครื่องยนต์ให้ ปลดล็อกปุ่มนี้ออก
  • ไม่มีชุด Rudder Pedal มาให้ด้วย เมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่าง Logitech G940 ที่มีชุด Rudder Pedal มาให้ในตัว ในราคาที่ถูกกว่า
  • ชุด Throttle มีขนาดใหญ่มว้ากกก
  • เป็นเหล็กทั้งก้อน ได้อารมณ์มาก!
  • มีรูปสำหรับใส่น็อต เพื่อยึดตายเข้ากับโต๊ะหรือฐานต่างๆ
  • สายเคเบิ้ลที่ใช้เชื่อต่อระหว่างชิ้นส่วนต่างๆ ดูหัวต่อจะหลุดง่ายไปนิดนึง และไม่มี USB Port ในตัว

รูปเสีย

หน้าตา Driver สำหรับการตั้งค่าต่างๆ

ตลอด 2 สัปดาห์กว่าๆ ผมใช้ทดสอบ (เล่น) ชุด HOTAS ตัวนี้กับเกม Microsoft Flight Simulator X และ Wing of Prey โดยใช้ร่วมกับชุด Pro Flight Rudder Pedal ของ Saitek อีก 1 ตัว ซึ่งสร้างความประทับใจอะไรหลายๆ อย่างมาก ถึงตัว X65F จะไม่มี Force Feedback แต่ด้วยความที่มันเป็นเหล็กทั้งก้อน และตัว Throttle เองก็ค่อนข้างมีน้ำหนัก การผลักคันโยก Throttle ไปมาเองก็ต้องใช้แรงพอสมควร (สามารถปรับความฝืดของ Throttle ได้ ซึ่งผมเองยังไม่ได้ทดลองตั้งน้ำหนักของ Throttle ใหม่ แต่ส่วนตัวคิดว่าถ้าหากเป็นการบังคับที่ต้องผลัก Throttle ไปมาเสมอนั้น ผมคิดว่าน้ำหนักมาตรฐานที่ตั้งมาให้คงไม่สามารถใช้ได้ครับ เพราะต้องออกแรงเยอะมาก) ดังนั้น X65F จึงสามารถสร้างความประทับใจได้เป็นอย่างดี

รูปเสีย

ปล. Wing of Prey ของ PC สนุกมากครับ เป็นภาคพอร์ทที่เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ ลงไปจาก Bird of Prey ของ PS3, X360 ซึ่งอารมณ์นั้นเหมือนเล่น Ace Combat สมัย WWII มาก แต่ถ้าเล่นที่ระดับความยาก Simulator นั้นการบังคับทุกอย่างค่อนข้างสมจริงเลยดีเดียว แต่ก็ยังติดความเป็น Arcade บ้างอยู่ดี ซึ่งผมว่าเหมาะสำหรับคนที่อยากหัดเล่นเกมแนวนี้มาก เนื่องจากค่อนข้างตรงไปตรงมา ปุ่มที่ใช้ในเกมจะยังไม่ยุบยับ เหมือนเกมขับเครื่องบินเจ็ทในยุคปัจจุบัน และไม่ได้เล่นยากเกินไปด้วย แต่ถ้าต้องการเหมือนจริงๆสุด อันนี้คงต้องกลับไปเล่น Il2 แล้วละครับ

รูปเสีย

ส่วนตัว Throttle นั้นเมื่อดันไปเกือบๆ สุดทางใดทางหนึ่ง จะมีตัวล็อกเอาไว้ก่อนจะสุดทางเหมือนกับก่อนจะปรับเครื่องยนต์เข้า Afterburn ราวๆ นั้นแหละครับ ใน Throttle รุ่นอื่นๆ ก็มักจะทำมาไว้เป็นแบบนี้เหมือนกัน

ว่าข้อดีกันไปแล้ว ก็มาดูข้อเสียกันเล็กน้อย อย่างแรกเลยคือแรงมาตรฐานที่ผู้ผลิตตั้งมาให้นั้น ที่แรงระดับ 1 แทบจะไม่สามารถใช้เล่นได้เลย หากไม่ทำการยึดตายตัว Stick เข้ากับโต๊ะหรือแท่นต่างๆ เพราะต้องออกแรงมากกว่าจะให้ Joystick ดันไปได้สุดทาง ดังนั้นการออกแรงผลักมาขนาดนั้นย่อมทำให้ตัว Stick นั้นหลุดลอยออกจากโต๊ะได้อย่างง่ายดาย ส่วนแรงที่ผมใช้เล่นคือแรงระดับ 3 ซึ่งจะไม่ต้องออกแรงมากเท่าใดในการผลักตัว Stick และไม่ทำให้เมื่อยมือมากด้วย

เรื่องที่สอง Stick มีขนาดค่อนข้างใหญ่ และไม่สามารถปรับเปลี่ยนฐานรองข้อมือได้เหมือนอย่าง X52 ส่วน ที่เสริมฐานรองข้อมือก็มีขนาดไม่ใหญ่นัก ดังนั้นคนที่มือเล็ก อาจจะต้องใช้เวลาปรับความคุ้นเคยกันนานพอสมควร หรือควรจะไปหาอะไรก็ได้มาเสริมฐานรองข้อมือซะ

เรื่องที่สาม อันที่จริงแล้ว G940 มีล้อหมุน trim มาให้ครบ 3 แกน แต่ในขณะที่ X65F พอจะมีล้อหมุนที่ใช้เป็น trim ได้แค่ตัวเดียว เลยอาจจะเป็นเรื่องที่คาใจเล็กๆ แต่ก็ไม่ได้ซีเรียสอะไรขนาดนั้น เพราะสามารถใช้ปุ่มอื่นๆ มาเป็น trim ได้อยู่ดี

เรื่องที่สี่ครับ ตำแหน่งปุ่มต่างๆ บน Throttle ค่อนข้างแปลกๆ เมื่อถึงเวลาใช้งานจริง และจะรู้สึกไม่สบายมือเล็กน้อย เพราะต้องจับด้วยท่าแปลกๆ แต่ผมไม่แน่ใจว่าสำหรับพวกมือใหญ่ๆ แล้วตำแหน่งปุ่มจะพอดีหรือไม่ (อย่างน้อยๆ ก็คิดว่า x52 วางตำแหน่งปุ่มมาได้ดีกว่า)

สุดท้ายนี้ ด้วยราคาค่าตัวระดับนี้ ผมคิดว่าจริงๆ แล้ว Saitek ควรจะให้ Rudder Pedal รวมมาในชุดด้วยมากกว่าเมื่อเทียบกับ G940 ที่มีราคาถูกกว่าแต่ได้ครบชุดในทีเดียวถึงแม้ว่าจะมี Pro Rudder วางขายแยกก็ตาม แต่ค่าตัวของมันก็ไม่ถูกสักเท่าไหร และเมื่อยิ่งทดลองหมุนแกน rudder บนตัว stick ยิ่งพบว่ามีความลำบากและฝืนธรรมชาติแปลกๆ มาก ดังนั้น HOTAS ชุด x65F นี้สมควรอย่างยิ่งที่จะต้องหา rudder มาใช้งานเพิ่มครับ

นอกเหนือจากนี้แล้วก็ต้องถือว่า X65F เป็น ชุด HOTAS ที่ตอบโจทย์อะไรหลายๆ อย่างได้ดีทีเดียว เรื่องปุ่มไม่พอใช้งานก็ไม่เป็นปัญหา เพราะมีมาให้เหลือเฝือ แถมยังปรับได้ถึง 4 mode แทบจะคิดกันไม่ออกทีเดียวว่าจะเอาไปใช้ยังไงให้ครบทุกปุ่ม (อันที่จริงถ้าจะสามารถทำให้มี Force Feedback ได้ด้วยผมว่ามันจะยิ่งเจ๋งกว่านี้อีกหลายเท่า เนื่องจากบางครั้งการมีแรงสั่นสะเทือนผ่านจอยมาถึงมือนั้นทำให้เรารับรู้สภาพแวดล้อมต่างๆ ในขณะนั้นได้ด้วย)

ปล. จริงๆ ลองเอาไปใช้กับเครื่องบิน 2 ไอพ่นอย่าง F-15 ใน Lockon หรือ F-18 ใน FSX แล้ว แต่เนื่องจากยังไม่พบวิธีที่จะบังคับแยก 2 ไอพ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพเท่าไหร เลย เอาไว้ก่อน คงต้องไปศึกษาเพิ่มเติม เรื่องการขับเครื่องบิน 2 ไอพ่น หรืออาจจะได้ศึกษากันจริงๆ จังๆ ตอนเกม DCS: A-10 Warthog ออกวางขายนั่นแหละครับ เล็งรอเกมนั้นเอาไว้แล้ว

Leave a Reply