และแล้วในที่สุด วันศุกร์สัปดาห์ที่ผ่านมาผมก็ได้เล่น FFXIV กับเขาสักทีครับ
โอเคว่า… FFXIV นั้น ณ ขณะนี้เป็นเกมที่ เอ่อ… เข้าขั้นห่วย และ UI บัดซบที่สุดใน 3 โลกก็ว่าได้ ขนาดว่า FFXI UI ยังล้าสมัย ใช้งานยากแล้ว FFXIV UI กลับแย่กว่า FFXI อีกทั้งๆ ที่เป็นเกมที่ออกมาทีหลัง แต่ถึงกระนั้น ผมก็ยังคงเล่น FFXIV ได้ต่อไปโดยยังคงมีความหวังกับ patch ที่จะมาถึงในปลายเดือน 11 อยู่ แต่ไอ้เรื่องแย่ๆ พวกนี้จะไม่พูดถึงละกัน เขียนไปก็เซ็งเปล่าๆ
Nirvales
ชื่อนี้ผมใช้เป็นครั้งแรกตอนเล่น FFXI และก็ใช้ชื่อนี้มาตลอดในเกมอื่นๆ เวลาเล่นตัวผู้หญิง ไม่ว่าจะออนไลน์ออฟไลน์ หลายคนอาจจะไม่รู้ครับ แต่ว่าชื่อนี้ไม่ได้มาจากคำว่า Nirvana แต่อย่างใด… ที่มาที่ไปของชื่อคือ ผมพยายามเรียงตัวอักษรชื่อ handle name ของผมใหม่ (Arvin) โดยเรียงไปเรียงมาก็พอใจสองอันคือ Nivra กับ Nirva แต่สุดท้ายก็เลือก Nirva แทนแล้วเติม les เข้าไป เออมันก็ฟังดูดีนะ… แถมไม่มีใครใช้ชื่อนี้ด้วย ไม่ว่าจะไปเซิร์จเกมออนไลน์เกมไหนๆ ก็ตามด้วยชื่อ Nirvales จะพบ 0 record เสมอ เลยเป็นความภูมิใจอย่างนึงว่า ชื่อตูข้านี่มันไม่โหลนะเฟ้ย!
ขนาดว่าตอนเลิกเล่น FFXI ไปพักใหญ่ๆ หันไปเล่น WoW (World of Warcraft) แทน ซึ่งใน WoW ผมมีตัวละครอยู่ 3 ตัวใน 3 เซิฟเวอร์ ทุกตัวก็ชื่อ Nirvales หมด และเป็น Warlock หมดทั้ง 3 เซิฟเวอร์ด้วย… (มี undead, human และ blood elf)แต่ใน WoW นั้นมีเรื่องชวนปวดหัวเล็กน้อยคือ ตัวสุดท้ายที่เล่นเป็น Warlock Bloodelf ผมโดน report abuse เรื่องการตั้งชื่อตัวละคร ซึ่งผมก็ไม่เข้าใจว่าชื่อนี้มันไป abuse ใครยังไงอีท่าไหน เล่นเกมด้วยชื่อนี้มากว่า 5 ปีก็ไม่เคยจะมีปัญหา แถมไม่ใช่ตัวแรกที่ใช่ชื่อนี้ในเกม WoW ด้วยแต่เป็นตัวที่ 3 แล้วเพิ่งมาโดนเอา ผมพยายามถาม GM ของ WoW กับส่ง email ไปก็ไม่ได้รับคำตอบที่น่าพอใจนัก สุดท้ายผมก็เลยแก้ชื่อเป็น Nirvalez แทนซะ… ถึงมันจะดูแปลกกว่าเดิมแต่มันก็ใกล้เคียงของเดิมกว่าการตัด s ทิ้งไปเหลือแต่ Nirvale
Areltia
ขอสารภาพด้วยความสัตย์จริงครับ… ผมลืมไปแล้วว่านามสกุลนี้มันมาได้ยังไง คือช่วงก่อนที่จะได้ ID FFXIV มานั้น (บ้าเห่อมาก ขนาดยังไม่ได้เกม ยังพยายามตั้งชื่อแล้ว!) ผมพยายามเปิดอากู๋ แล้วพิมพ์ศัพท์ลงไปสัก 2 3 คำ จากนั้นก็ translate ไปเป็นภาษาอื่นไปเรื่อยๆ แล้วดูตรง Read phonetically เอาว่าคำอ่านออกเสียงออกมาเป็นที่น่าพอใจหรือไม่ ซึ่งจริงๆ แล้วไอ้ Areltia นั้นมันไม่ได้มาจากการ translate ตรงๆ ครับ แต่มันเป็นคำ 2 คำที่ผมเอามาหั้นตัวอักษรออกจนเหลือแค่นี้ และ นอกจากชื่อนี้จริงๆ ยังมีอีก 2 3 ชื่อที่ผมจดๆ เอาไว้ แต่สุดท้ายมันมีอะไรมาดลใจอีท่าไหนก็ไม่รู้ให้เลือกคำนี้มาเป็นนามสกุลตัวละคร ซึ่งพอเล่นไปได้สักพัก กลับรู้สึกว่ามันไม่ค่อยคล้องจองกับชื่อ Nirvales เท่าไหร และมันก็ดูเหมือนชื่อมากกว่านามสกุลด้วย แต่ก็เล่นมาได้พอสมควรแล้วก็เลยช่างมันเหอะ เอาไว้มีบริการเปลี่ยนชื่อตัวละคร เมื่อไหรเดี๋ยวค่อยมาดูอีกทีละกันว่าจะเปลี่ยนนามสกุลหรือไม่
Thaumaturge (THM)
ผมเลือกเกิดมาเป็นอาชีพ THM ด้วยเหตผลง่ายๆ เหมือนตอน FFXI นั่นคือ ฮีลเลอร์นั้นหายาก… แต่เดชะบุญที่ FFXIV นั้นคลาสเมจทั้ง 2 คลาส (Conjurer และ Thaumaturge) สามารถเติมพลังได้ทั้งคู่ ดังนั้นประเด็นหลักๆ ในการตัดสินใจเลือกเล่นจึงอยู่ที่ เวทย์ต่างๆ ที่ทั้งคู่มี ซึ่งผมรู้สึกว่่า CON นั้นค่อนข้างจะเป็น old school mage ของ FF ผมจึงตัดสินใจเลือกเล่น THM เป็นหลักเพราะมีเวทย์แปลกๆ ให้ใช้งานเยอะกว่า
ช่วงแรกๆ ก็… ตามสไตล์ RPG ที่ดีครับ… ตีหนู ตีกระรอก ไปเรื่อยๆ ช่างอ่อนด๋อยจริงๆ จะมีเอ็กไซท์เมนเล็กน้อยก็ไอ้นก โดโด้ ที่ชื่อดูโคตรโง่ หน้าตาก็โง่ แต่วินาทีแรกที่ไปแหย่ๆ มันมันก็จิกสวนกลับทีเดียว 1500dmg เลือดหมดหลอดในพริบตา… จนรู้เอาทีหลังว่าพวกมีสีแดงหน้าชื่อแปลว่าโคตรเก่ง อาจโดนกัดตายได้ใน 1 hit
ส่วนการเล่นใน PT ช่วงแรกๆ นั้นต้องบอกว่าค่อนข้างถ้อแท้เอามากๆ ใน PT เห็นคนอื่นซัดกันตูมตามๆ ตูข้ายังไม่ทันได้ทำอะไร mob ก็ตายหมดแล้ว skill ก็ได้จึ๋งนึงเมื่อเทียบกับชาวบ้าน จนแถบอยากจะหนีไปเล่น Gladiator ให้รู้แล้วรู้รอด แต่ระยะหลังมานี้เริ่มเข้าใจหลักการของการเล่น PT กันมากขึ้นจึงเริ่มมีกำลังใจเล่นขึ้นมาเรื่อยๆ
และผมก็เลือกทำ Alchemy กับ Goldsmith ควบคู่กันไป สาเหตก็ไม่ใช่อะไร Goldsmith นี่เอามาซ่อมอาวุธของตัวเองครับแต่ Alchemy ผมกะเอาไว้ว่า อนาคตถ้ามีอาวุธปืนเพิ่มเข้ามาในเกมเมื่อไหร ผมจะหนีไปยิงปืน และลูกกระสุนมันจะต้องใช้ Alchemy ในการปั๊มลูกกระสุนเหมือนตอน FFXI แน่ๆ ซึ่งตอนเล่น Corsair ใน FFXI นั้นลูกกระสุนผมก็ทำเองใช้เองมาโดยตลอด จนเลเวล 75 (ถึงหลังๆ ผมจะค้นพบความจริงว่า Corsair มันไฮโซ ใช้กระสุนถูกๆ แบบ Ranger ไม่เป็น ใช้เป็นแต่กระสุนแพงๆ แต่ผมก็ยังคงฝืนเล่นต่อไป…) ผมจึงเลือกที่จะ main alchemy เอาไว้ก่อน ส่วนการทำลูกกระสุนจริงๆ นั้นจะยากสาดิสแค่ไหน.. เอาไว้มันมีเมื่อไหรเดี๋ยวค่อยว่ากันอีกที แต่มันคงไม่ง่ายเหมือนตอนเล่น FFXI แน่ๆ
แต่ก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่าคราวนี้จะเล่นได้นานแค่ไหน แต่ก็จะลองเล่นไปเรื่อยๆ ดู ดีไม่ดี อาจจะวางอาวุธ แล้วหันไปถือจอบถือขวานไปขุดดินตัดต้นไม้เอาอย่างเดียวก็ได้
ว่าแต่เคืองนะเนี่ย…. ทำไมภาคนี้ไม่มี /slap แล้ว… อยากจะไป /slap ใส่หัวลาลาเฟลเรียงตัวจัง…. /slap /slap
Ul’dah
FFXIV มีเมืองให้เลือกเกิดอยู่ 3 เมืองด้วยกันคือ Limsa Lominsa, Ul’dah และ Gridania ซึ่งผู้เล่นจะไม่สามารถเปลี่ยนเมืองเกิดได้ และ จะทำ main quest ของเมืองเกิดได้เพียงเมืองเดียวในขณะนี้เท่านั้น ผมเลือก Ul’dah เป็นเมืองเกิด ด้วยเหตผลง่ายๆ… ถ้าผมเลือกเกิดที่ กริดาเนีย ผมก็จะต้องทนเห็นหน้า ลาลาเฟล เสียงนอร์มแก่ๆ กับ ฮิวลันใส่หน้ากาก ที่ดูเหมือนคนบ้าไปตลอดจนจบเกม…
ในขณะที่ถ้าเลือกเกิดที่ ลิมซ่า โรมินซ่า หรือ อุลดา ก็จะพบกับหูแมวสุดแจ่มจรัส เป็น npc ในเนื้อเรื่อง… อย่ากระนั้นเลย ช่างหัวเมืองกริดาเนียไปเถอะ… และคลาสที่ผมตั้งใจจะเล่นนั้นเกือบทุกคลาสมันสถิตอยู่ใน อุลดา ทั้งนั้น จึงแทบจะไม่ต้องคิดเลยว่าระหว่าง อุลดา กับ ลิมซ่า โรมินซ่า นั้นผมคงจะเลือก อุลดาแน่นอน
ปล. เปลี่ยนชุดทำคราฟใหม่แล้วครับ… ดูดีมีชาติตระกูลไม่เป็นเด็กช่างกลแล้ว