Mini Review – Logitech G35 เฮดเซทสำหรับเกมเมอร์

จากเอนทรี่คราวที่แล้ว Mini Review – Razer Mamba  วันนี้เรามาพูดกันต่อถึงตัว G35 ครับ

Logitech เองมีสิ้นค้าในกลุ่มสำหรับเล่นเกมอยู่มากมาย ซึ่งในนั้นจะมีสิ้นค้าที่ถูกเรียกว่าสำหรับ PC Hardcore Gamer อยู่จำนวนหนึ่ง โดยจะตั้งชื่อขึ้นต้นด้วยตัว G เสมอ และตามด้วยเลขรหัส ซึ่งจริงๆ ผมว่าการตั้งชื่อสิ้นค้าเป็นเลขรหัสแบบนี้ชวนปวดหัวอยู่เหมือนกัน เพราะบางทีเรียกลอยๆ ขึ้นมาใครจะไปจำได้ว่ารหัสไหนหน้าตาเป็นยังไงครบทุกรุ่น แต่ดูท่าทาง logitech เองก็มีหลักการตั้งชื่ออยู่เล็กน้อยครับ

  • เลขตัวเดียวคือ เมาส์ เช่น G5, G7, G9 และ ตัวล่าสุดชื่อ G9x
  • ในกลุ่มคีย์บอร์ด จะใช้ช่วง 10 ถึง 20 เช่น G11, G13, G15 และน้องใหม่ล่าสุด G19
  • ชุดพวงมาลัยสำหรับเล่นเกมขับรถจะใช้หลัก 20 คือ G25
  • กลุ่มเครื่องเสียงจะอยู่ในหลัก 30 คือ G35

นอกจากนี้ยังมีชุด Joystick HOTAS ที่ยังไม่เปิดขายอย่างเป็นทางการในเลขหลักร้อยขึ้นไป คือ G940 อีกหนึ่งตัว

ซึ่งจริงๆ แล้วถึงแต่ละตัวจะถูกเรียกว่าสำหรับ Hardcore Gamer แล้ว… เอาเข้าจริงๆ หลายๆ ชิ้นเอาไปใช้ทำงานได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อครับ เช่นกลุ่มตระกูลคียบอร์ด ซึ่งทุกตัวสามารถเขียนมาโครได้ ผมเองก็ใช้ G15 ทำงานโดยการกำหนดมาโครต่างๆ ไว้บนตัวคียบอร์ด รวมถึง (เท่ห์นะครับ กดปุ่มเดียว มีโค้ดเด้งออกมา 3 บรรทัด)

และแน่นอนครับ.. ไอ้สิ้นค้าที่ถูกเรียกว่าสำหรับ Hardcore Gamer นั้น ราคาไม่ค่อยจะน่ารักเลยสักกะชิ้น…เจ้า G35 มีราคาค่าตัวนั้นเกือบเลข 5 (ซึ่งราคายังน่ารักว่า ฉลาม Megalodon ของ Razerที่เพิ่งเปิดตัวไม่นานมานี้เอง ใครจับจองเป็นเจ้าของกันแล้ว เล่าสู่กันฟังบ้างนะครับว่าเป็นยังไงบ้าง)

 

ก่อนจะพูดถึง ตัว G35 ผมจะขอพูดถึงความสำคัญของเฮทเซทกันเล็กน้อย

เฮทเซท ที่ผมพูดถึง ก็คือ เฮทโฟน ที่มี ไมค์ ติดนั่นแหละครับ

หากว่าคุณๆ ทั้งหลาย เล่นเกมที่ต้องแข่งขันกันเป็นชีวิตจิตใจ หรือเกมที่ต้องอาศัยการทำงานกันเป็นทีมบ่อยๆแล้ว เฮทเซท จัดเป็น 1 ในศาสตราเทพ ที่ขาดไม่ได้ครับ

ลองนึกภาพตามนะครับ เกมที่เล่นมัลติเพลยเยอร์ โดยไม่ใช้เฮทเซทกัน

สมมุติว่า เกมที่คุณเล่นเป็น FPS และคุณเห็นศัตรูกระโจนเข้าใส่มุมอับของเพื่อน ซึ่งเพื่อนคุณไม่มีทางมองเห็นแน่ๆ ถ้าคุณไม่ใช่ไมค์ในการสื่อสารแล้วคุณจะทำยังไง?

พยายามยิงช่วยเหลือสิครับ แต่ถ้าสถานะการมันไม่เอื้ออำนวยละ? ตอนนั้นมันอาจจะวิกฤติสุดๆ แล้ว อารมณ์ว่าตัวคุณเองก็จะรอดมิรอดแหล่ แล้วคุณจะทำยังไงให้เพื่อนรู้ตัว

….ก็ต้องพิมพ์บอก… แน่นอนว่ามันเป็นไปไม่ได้ในเกมที่รวดเร็วแบบนี้

หรือ ภาวนาให้เพื่อนคุณหันมามองพอดี…

แต่ถ้ามีไมค์ ก็ง่ายนิดเดียว… ตะโกนลั่นบ้านเลยครับ

ที่พูดมาเป็นประสบการณ์ตรงจากการเล่น Left 4 Dead กับเพื่อนอีก 3 คนในระดับยาก โดยทุกคนใช้เฮทเซท หรือ หูฟังและไมค์ กันหมด เกมการเล่นค่อนข้างลื่นไหลมากครับ มีอะไรก็เอะอะโวยวายลั่นบ้านกันทุกคนเพราะเกมนี้มีแอกชั่นที่รวดเร็วมาก การสื่อสารด้วยการพิมพ์มันไม่ทันการแน่ๆ ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดคือ แหกปากกันเข้าไป ใครพบ ใครเจออะไร ก็พูดๆ ออกมา (จนเพื่อนผมคนนึงบอกว่า หลังเลิกเล่นแล้ว โดนที่บ้านด่าครับ ว่าแหกปากโวยวายเสียงดังลั่นบ้านมาก)

ทีนี้ทำไมต้องเป็นเฮทเซท? ถ้าต้องการแค่ไมค์ ไปซื้อไมค์ถูกๆ มาเสียบใช้เลยก็ได้ไม่ใช่รือ? ลำโพงก็มีอยู่แล้ว

การเล่นเกมลักษณะนี้ หากจะพูดคุยกันแล้ว เฮทเซท เป็นทางออกสถานเดียวครับ เพราะว่าหากใช้ไมค์ คู่กับลำโพงแล้ว รับรองว่า เสียงจะตีกันวุ่นวาย จนแทนที่จะคุยกันรู้เรื่อง กลับทำให้เลวร้ายยิ่งกว่าเดิมอีกครับ หรือบางคนอาจจะบอกว่าปิดเสียงไปเล่นไปก็ได้ แต่กับเกมหลายๆเกม เสียง เป็นสิ่งสำคัญยิ่งในการเตือนภัยอันตรายต่างๆ ดังนั้นการปิดเสียงเล่นเกม ก็เหมือนประสาทสัมผัสเราพิการไปอย่างนึงแล้วนั่นเอง จึงไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก

แต่จริงๆ แล้วเฮทเซท ก็ไม่ได้จำเป็นเสมอไป ในเกม MMO อย่าง Final Fantasy XI หรือ World of Warcraft นั้นผมใช้แค่ไมค์ลอย แล้วตั้งให้เป็น push to talk เอา (คือไมค์จะทำงานก็ต่อเมื่อเรากดปุ่มใด ปุ่มหนึ่งที่กำหนดไว้เท่านั้น) ก็ สื่อสารกันรู้เรื่องแล้ว ซึ่งเสียงของทั้งสองเกม ก็ไม่ใช่ factor หลักในการเอาตัวรอดนัก

แต่การตั้ง push to talk นั้นจะลำบากตรงที่ ปุ่มที่กำหนดไว้ต้องเป็นปุ่มที่เอื้อมไปกดได้ง่าย โดยไม่ทำให้การควบคุมตัวละครสะดุด นั่นถึงจะเป็นปุ่ม push to talk ที่ดี ซึ่งอันนี้ก็ต้องเทคนิกใครเทคนิกมันแล้วว่าจะตั้งกันยังไง

 

….พล่ามนอกเรื่องไปมากแล้ว กลับมาเข้าเรื่องเรากันดีกว่า ( ‘ ‘)

บอกก่อนเลยนะครับ G35 นี้ใช้ได้กับ PC เท่านั้นนะ เพราะหัวต่อเป็น USB ซึ่งรองรับทั้ง Windows และ OSX และจะต้องลงไดรเวอร์ของ เฮทเซท ด้วยหากต้องการใช้ฟีเจอร์บางอย่าง นั่นแปลว่า PC ไม่จำเป็นต้องมีการ์ดเสียงระดับเทพๆ ขอเพียงมีเฮทโฟนตัวนี้ เท่านั้นก็พอแล้วครับ แต่ในทางตรงกันข้าม หากมีการ์ดเสียงอย่าง X-Fi อยู่แล้ว เมื่อใช้ G35 ตัว X-Fi ก็จะไม่มีประโยชน์เลยครับ เพราะ G35 ทำหน้าที่เป็นการ์ดเสียงในตัวด้วย

IMAG0146

IMAG0151

ตัวแพ๊กเกจ นอกจากแผ่นไดรเวอร์ และตัว เฮทเซท นั้นยังให้แผ่นรองหัวมาเปลี่ยนอีก 2 ขนาดด้วยกัน ให้เลือกไซส์ได้ตามใจชอบ

 

IMAG0153

ที่ด้านซ้าย จะมีปุ่ม G1-G3 อยู่ ซึ่งปุ่มเหล่านี้เราไปตั้งค่าได้ ว่าจะให้ทำอะไรบ้างเช่นการเพิ่มลดเสียง หรือเปิดโปรแกรม หรืออื่นๆ (แต่ไม่สามารถเขียนมาโครได้นะครับ) และปุ่ม mute ไมค์ กับล้อหมุนปรับระดับเสียง อีก 1 ตัว

นอกจากนี้ตรงบริเวณด้านหลังของไดรเวอร์ด้านซ้ายจะมีสวิทช์อีก 1 ตัวเอาไว้เปิดโหมด surround sound หรือ 2 speaker ธรรมดา

ตัวไมค์ สามารถโค้งงอได้เล็กน้อย และ พับเก็บขึ้นไปได้และเราตั้งค่าได้ด้วยว่าหากไมค์ไม่เปิดใช้งานจะให้ไฟ LED สว่างขึ้นเพื่อเตือนให้เรารู้หรือไม่

 

G35CP2

หน้าจอไดรเวอร์

ไอ้ด้านล่างซ้าย Voice Morphing นั่นเป็น gimmick เล็กๆ น้อยของเฮทเซทตัวนี้

หน้าที่ของมันคือการแปลงเสียงของเราไปเป็นเสียง มิวแทน เสียงแอนดรอย์  ฯลฯ ซึ่งผมว่าเอาไปใช้งานจริงคงไม่ค่อยเวิร์คครับ… แต่ถ้าเอาไปเล่น โรลเพลย์ น่าจะเข้าทางกว่า

การใช้งานจริงในด้านเล่นเกม น่าพอใจมากครับ ทิศทางของเสียง ค่อนข้างชัดเจนว่ามาจากทางไหน รวมถึงไมค์ ที่ใช้คุยกันได้ดีเยี่ยม หรือหากไม่ต้องการใช้ไมค์ ตัวไมค์เองก็พับเก็บซ่อนได้ค่อนข้างเนียนไม่เกะกะสายตา

แต่ทางด้านการฟังเพลงนั้น ผมคิดว่า G35 ทำได้แค่เสมอตัวแค่นั้นครับ คือถ้าคิดจะซื้อหูฟังมาเพื่อการฟังเพลงจริงๆ นั้น มีตัวเลือกอื่นที่ดีกว่านี้เยอะในราคาที่เท่ากันครับ แต่ไม่ใช่ว่า G35 เสียงไม่ดีนะ มันดีเลยแหละครับ แต่คงดีสู้หูฟังที่ใช้ฟังเพลงจริงๆ ไม่ได้ และการที่มันใช้ร่วมกับการ์ดเสียงไม่ได้ (ผมใช้ X-fi อยู่) มันทำให้มีข้อจำกัดพอควร ในด้านการฟังเพลง เช่นเล่น equalizerแบบฮาร์ดแวร์ไม่ได้

อีกอย่างคือ G35 นั้นไม่เหมาะกับเพลงในสไตล์ที่ต้องการความละเอียดของเสียงสูงหรือเสียงแหลม เนื่องจากตัว G35 จะให้เสียงหนักไปทางเบส มากกว่าเพื่อการเล่นเกมส์ที่ได้อารมณ์นั่นเอง

….แต่จริงๆ แล้วเรื่องฟังเพลงนี่รสนิยมใคร รสนิยมมันจริงๆ ผมคงตอบอะไรมากนักไม่ได้ คงบอกได้แค่ว่า G35 เป็นเฮทเซทสำหรับเล่นเกมจริงๆ แต่หากใครซื้อมาฟังเพลงอย่างเดียวแล้ว ผมก็คงคิดว่าเอามาใช้งานผิดวัตถุประสงค์ไปหน่อยครับ ( ‘ ‘)

Pros:

  • เสียงดีมาก บอกทิศทางของเสียงได้ค่อนข้างชัดเจน
  • ไมค์ คุณภาพเสียงค่อนข้างดีมาก
  • ลักษณะที่ครอบหูเก็บเสียงภายนอกค่อนข้างดี ทำให้ได้ยินแต่เสียงเกมในระหว่างเล่น
  • มีที่รองหัวมาให้เปลี่ยน เพื่อให้เข้ากับหัวของแต่ละคนได้ดี
  • ไม่ต้องการการ์ดเสียง

Cons

  • แต่ใช้งานร่วมกับการ์ดเสียงไม่ได้เช่นกัน
  • Windows, OSX only
  • ตัวไดรเวอร์ 2 ด้านหมุนได้ ซึ่งน่ากลัวว่าหากเกิดการกระแทก หรือหมุนแรงๆ มันจะหักเอาได้
  • ค่าตัวค่อนข้างแพง
  • หากมีการ์ดเสียงที่ดีอยู่แล้ว การเลือกซื้อ หูฟัง และไมค์ มาใช้งานจะเป็นทางออกที่ประหยัดกว่ามาก

ก็จบการรีวิวคร่าวๆ เพียงเท่านี้

คราวหน้า สงสัยจะเป็น G19 ละมั้ง ( ‘ ‘) คีย์บอร์ดอะไรก็ไม่รู้เปิด youtube ได้…. บ้าไปแล้ว

 

———–

แก้รูปเล็กน้อย

Leave a Reply