ช่วงสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากเปิดตัว PS4 Pro ตัวใหม่ที่มีฟังก์ชั่น HDR ผมก็เลยสงสัยเล็กน้อย คือทำไม HDR ของ PS4 Pro จะต้องใช้กับ TV 4K เท่านั้น จริงๆ แล้ว HDR มันไม่ได้มีมาตั้งนานแล้วหรือ เท่าที่จำความได้ ผมได้ยินคำว่า HDR ครั้งแรกก็กับเกม HL2
หลังจากไปค้นคว้าอยู่สักพักนึง ก็เลยทำให้ทราบว่าจริงๆ แล้ว HDR ในอดีตที่เราเคยๆ ได้ยินกันมา มันเป็น HDRR – High Dynamic Range Rendering กล่าวคือ เป็นเทคนิคการเรนเดอร์ภาพ ที่จะจำลองสีให้ใกล้เคียงกับที่ตาเห็นให้ได้มากที่สุด นอกจากเกมที่ใช้เทคนิคนี้ ก็จะมีกล้องถ่ายรูปที่สามารถถ่ายในโหมด HDR ได้เช่นเดียวกัน
แต่ HDR ใน TV4K นั่น แตกต่างออกไป ใน TV4K ที่รองรับ HDR เม็ดสีแต่ละเม็ดจะใช้ความจุถึง 10บิต (เป็นขั้นต่ำตามมาตรฐาน HDR10) ต่อ 1 channel สี เมื่อเทียบกับทีวีปรกติที่ 1 channel ใช้ความจุเพียง 8บิตเท่านั้น ข้อดีก็ความแตกต่างระหว่างสีดำกับสีขาวจะมากกว่าเดิม ทำให้เฉดสีมีชีวิตชีวามากกว่าเมื่อเทียบกับ TV ทั่วไป
ในเชิงเทคนิก HDR เป็นจุดเปลี่ยนของเทคโนโลยีการแสดงผล จากเดิมที่ผู้ผลิตพยายามเพิ่มความละเอียดของเม็ดสีมาเรื่อยๆ จาก 640×480 มาเป็น full HD จนมาเป็น 4K แต่เมื่อการเพิ่มปริมาณเม็ดสีอย่างเดียวไม่สามารถทำให้คุณภาพภาพมีความแตกต่างจากเดิมได้อีกต่อไปHDR จึงมาช่วยเติมเต็มในส่วนนี้ที่หายไป
มาถึงจุดนี้แล้ว แปลว่ารูปภาพต่างๆ ที่จะใช้มาเป็น resource ในตัวเกมหรือภาพถ่ายต่างๆ จำเป็นจะต้องใช้ 10บิต ต่อ 1 สีเหมือนกันหรือไม่ หลายๆ ที่ก็จะบอกว่า ไม่จำเป็นใช้ 8บิต ไปเหมือนเดิมก็เพียงพอสำหรับการบันทึกรูปภาพต่างๆ สำหรับใช้เป็น resource แล้วที่เหลือปล่อยเป็นหน้าที่ของเกมเอนจิ้นไป แต่กับตัวไฟล์หนังนั้นแตกต่างออกไป ไฟล์หนังที่จะใช้เล่นกับ TV4K HDR จะต้องเป็นฟอร์แมตที่รองรับ HDR ด้วยถึงจะใช้ความสามารถของ HDR ใน TV ได้
HDR ในทีวียังคงเป็นของใหม่มาก อุปกรณ์ที่รองรับอาจจะน้อยอยู่ แต่ ถ้าใครจะซื้อ TV4K ตอนนี้ ลองมองๆ คำว่า HDR เป็นออฟชั่นไว้บ้างก็ดี แต่คนที่มี TV4K อยู่แล้วก็ไม่ต้องไปเปลี่ยนตัวใหม่ใช้ของเดิมต่อไปนั่นแหละ
มีข้อน่าสังเกตอย่างนึงที่ผมยังไม่มีคำตอบ (ยังหาคำตอบที่น่าพอใจไม่ได้) คือทำไมต้อง TV4K ถึงจะใช้ HDR ได้ เป็น TV Full HD เฉยๆ ไม่ได้หรือ ในเมื่อสิ่งที่แตกต่างคือความสามารถในการแสดงเฉดสีมากกว่าเดิม ไม่ใช่เม็ดสีที่มากขึ้น