รู้สึกไม่ได้เขียนอะไรเป็นชิ้นเป็นมากละ เนื่องจากเข้าโค้งสุดท้ายของเทอมนี้แล้ว (ในระหว่างที่เขียนอยู่นี่เองก็ยังสอบไม่เสร็จเช่นกัน)
ช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาผมได้เล่นเกมจบไป 2 เกม นั่นคือ Darksiders และ Civilization V (เอ่อ… นับว่าจบไปก็แล้วกันถึงมันจะออกเป็นเกมแนว sandbox)
สำหรับ Darksiders จรีงๆ ก็เป็นเกมที่ลงคอนโซลมาก่อนหน้านี้นานมากแล้ว แต่ผมเองเพิ่งจะมีโอกาสได้เล่นบน PC เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
ตามปรกติของเกม PC หลังจากที่ Install เสร็จแล้ว ผมจะต้องเข้าไปเซ็ต option ต่างๆ ของตัวเกมก่อนเสมอ ซึ่ง Darksiders เองก็ทำให้ความประทับใจติดลบในจุดนี้เล็กน้อย เนื่องจาก สิ่งที่จะสามารถตั้งค่าได้ใน video option มีเพียงแค่ resolution เท่านั้น… ไม่มีตัวเลือกทางกราฟฟิคอื่นๆ แม้แต่ windows โหมดยังไม่มี (ซึ่งไม่จำเป็นเท่าไหรสำหรับเกมแนวนี้)
คาามประทับใจติดลบอย่างที่สองนั่นคือ ตัวเกมสามารถรับรู้ได้ว่าผมเสียบจอย Xbox 360 แล้วแต่ตัวเกมกลับมีปัญหากับการใช้จอย Xbox 360 (ผมเล่นบน Windows 7 64bits) แต่ด้วยอากู๋ของเรา ผมจึงสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ในเวลาไม่นานนัก ถึงมันจะเป็น workaround ที่กลุ่มคนเล่นทำกันขึ้นมาเองก็ตาม และผมไม่แน่ใจว่าปัญหานี้เป็นปัญหาของเกมที่รันบน steam อยู่แล้วหรือเป็นปัญหาเฉพาะเกมนี้เท่านั้นกันแน่
Darksiders เป็นเรื่องราวของ 4 Horsemen ตามไบเบิ้ล ซึ้งในเรื่องจะปรากฎออกมาเมื่อผนึกทั้ง 7 ถูกทำลายลง แต่ในตอนต้นเรื่องผนึกไม่ได้ถูกทำลายลงทั้งหมด แต่ War ซึ่งเป็น 1 ใน 4 Horsemen กลับถูกเรียกตัวออกมาโดยใครไม่รู้ เลยทำให้ War ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ละเมิดกฎ และทำให้ War ต้องออกตามหาผู้อยู่เบื่องหลังทั้งหมดเพื่อแก้แค้น
ในด้านตัวเกมนั้น ต้องบอกว่าส่วนของแอกชั่นคล้าย God of Wars แต่มีเลเวลดีไซน์ที่คล้าย Zelda และผสมผสานได้อย่างลงตัว ซึ่งผมเดาเอาว่าผู้พัฒนาเกมต้องเป็นแฟนพันธ์แท้ เซลด้า แน่ๆ เพราะมุขหลายๆ มุขมันมาจากเซลด้าชัดๆ… ไม่ว่าจะเป็นเลื่อนหลุมศพ เพื่อหาทางลับใต้ดิน หรือการขว้างกรงจักร(บูเมอแรง) รวมถึงการใช้ตะขอเกี่ยว ฯลฯ แต่ก็ไม่ใช่ว่าเกมจะไม่มีความเป็นออริจินอลของตัวเอง เพราะ Darksiders มีงานศิลป์ที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง ซึ่งจะดูเป็นการ์ตูนมากกว่าแบบสมจริง
ในตอนที่เล่นนั้น ด้วยความเสี้่ยน ผมได้เลือกเล่นแบบยากสุดตั้งแต่แรก และก็พบว่าการประมาทในเกมนี้ ด้วยความยากระดับนี้ เพียงเสี้ยววิ คุณจะถูก ลิ่วล้อ หน้าตาโง่ๆ ที่ดูเหมือนเปรตเดินดินไม่มีพิษสงอะไร เล่นงานทำเลือดหายไปถึง 2 หลอดได้ใน 1 คอมโบเท่านั้น…. แต่ตัวเกมยังใจดีว่า เกมจะมี autosave ให้ตลอดเวลา ดังนั้นถึงตายไปก็เพียงเริ่มห่างจากจุดที่เพิ่งตายไปไม่ไกลมากนัก
แต่เพราะไอ้ autosave นี่แหละ ที่ทำให้ผมเกือบจะเอาตัวไม่รอดในดันเจี้ยนสุดท้าย เพราะว่าเกมนี้ไม่เหมือนเซลด้าตรงที่ เซลด้า เวลาตาย คุณก็จะโดนเตะออกไปหน้าดันเจี้ยนทันที ปล่อยให้คุณมีโอกาสกลับไปซิ้อยาเติมพลัง หรือตามหาหัวใจเพิ่มพลังชีวิตก่อน แต่เกมนี้ไม่ใช่… การตายในดันเจี้ยนคุณก็จะเกิดใหม่ในห้องที่เพื่งตายไปทันที และหากพลังคุณมีมากกว่า 4 หรือ 5 หลอดขึ้นไป พอเกิดใหม่มาพลังคุณก็จะมีให้เพียงแค่ 4 หลอดเท่านั้น (ตอนนั้นผมจำได้ว่ามีพลังราวๆ 8 หลอดแล้ว) และปัญหาที่ผมพบคือ
- ผมเจอห้องที่เป็นช็อตบังคับให้ฆ่าลิ่วล้อทุกตัวถึงจะไปต่อได้ ซึ่งถ้าผมไม่สามารถผ่านห้องนี้ไปได้ ผมเองก็ไม่สามารถออกดันเจี้ยนไปซื้อยาเติมพลังได้เช่นเดียวกัน
- ศัตรูเกือบทุกตัวในห้องนั้น สามารถอัดคอมโบใส่ผมทำเลือดหายทีละ 2 หลอดได้อย่างไม่ยากเย็น…
- และ ผมเปิดหีบเติมพลังจนไม่เหลือให้เปิดแล้ว
นั่นแปลว่าผมจะต้องหาทางผ่านห้องนี้ด้วยเลือดเพียงแค่ 4 หลอดจาก 8 หลอด ที่โดนอัดด้วยกระบวนท่าเพียงแค่ 2 ชุดผมก็จะล่องจุ้นได้อย่างง่ายดายให้ได้ มิเช่นนั้นผมก็จะติดอยู่ในดันเจี้ยนนี้ไปตลอดกาล จนอาจจะถึงขั้นต้องเล่นเกมใหม่ตั้งแต่ต้น…
แต่เดชะบุญ เล่ามาตั้งนาน จริงๆ แล้วผมมีไอเท็มเติมพลังเต็มติดตัวอยู่ 2 ขวดครับ.. แน่นอนว่าไม่ได้ซื้อมาเอง แต่เปิดหีบเจอ แต่ด้วยความงกไม่อยากใช้ตามนิสัย ผมก็เลยดันทุรังเล่นห้องนั้นอยู่นานมาก จนในที่สุดทนไม่ไหวตัดใจเอามาใช้ 1 ขวด ก็เลยทำให้ผ่านมาได้
แล้วนั่นก็เลยเป็นบทเรียนว่าแทนที่จะพึ่ง autosave สู้ยอมเสียเวลาเซฟเองในบางครั้งดีกว่าเพราะเซฟเองมันได้พลังเท่าที่่มีในตอนนั้นนั่นเอง
จะเสียดายเล็กน้อยก็ตรงที่พอได้ของครบทุกอย่างแล้วบอสใหญ่แทบจะง่ายเป็นขี้ไปเลย
สรุปว่าชอบครับ เป็นคนที่ชอบเล่นเกมที่ต้องแก้ปริศนาแบบเซลด้าอยู่แล้ว และมีแอกชั่นสนุกๆ แบบนี้นี่โอเคเลย
จะเสียก็แค่ เนื้อเรื่องนอกจากช่วงเปิดกับช่วงท้ายเกมแล้ว ช่วงกลางๆ เกมมันกลวงโบ๋สิ้นดี