บงกช เดียวนี้เล่นสเปเชี่ยลเอฟเฟคกับหนังสือแล้ว?

ไม่รู้จะเริ่มไงดี

เอาตามงี้ละกันครับ

วันนี้กำลังทำรายงานวิชา HR, MIS อยู่

ไอ้น้องชายก็เอาสิ่งนี้มาให้ดูครับ (พร้อมกับอาการโวยวายๆ เล็กน้อย)

wtf1

ก็มังกะ ธรรมด้า ธรรมดา เล่มนึง

wtf2

หะ? อะไรนะแถบสีน้ำตาลๆ บงกช เล่นสเปเชี่ยลเอฟเฟค กับหน้ากระดาษหรือยังไง ซูมครับ แบบนี้ต้องซูมไปดู!

wtf3

….

เจร้ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!!!!!!!!!1111

มันเอากระดาษกาวมาแปะหน้ากระดาษที่ขาดครับ!? พี่น้อง!

wtf4

ไม่ใช่แค่หน้าเดียว มันเป็นถึงสองหน้า!

 

ส่วนคุณน้องสาวที่เห็นแบบนี้ ก็เลยมาบอกว่า

“มันไม่ใช่หนแรกหรอกนะ ก่อนหน้านี้สมัย 35 บาทมันก็เคยทำมาแล้วทีนึงละ แต่ตอนนั้นวุ่นๆ อยู่เลยไม่ได้เอาไปเปลี่ยน”

ว่าแล้วคุณน้องก็ไปหยิบมาให้ดู

wtf5

เรื่องอะไรก็ไม่รู้ละ สมัย 35 บาท

wtf6

wtf7

………………. จะพูดว่าไงดี

ทำไมช่างกล้าแบบนี้? เอาของมีตำหนิมาขายให้ลูกค้า?

โอ้ ทราบซึ้งสุดหัวใจเลยหละครับ  (แล้วแบบนี้จะเอาไปเปลี่ยนกับร้านได้ไหมวะเนี่ย!? ไม่ต้องเอาเล่มเก่าหรอกนะ เฉพาะเล่มใหม่ที่ซื้อมาก็ได้)

ปล. ขอบคุณ คุณน้องชาย และ คุณน้องสาว ที่อยู่ดีๆ ทำให้ผมเขี่ยนเพิ่มได้ 1 เอนทรี่


คุยกับคนรู้จักมา (ไม่เกี่่ยวกับบงกชนะ)

สรุปว่าเป็น ดีเฟคของโรงพิมพ์ครับ เป็นช่วงรอยต่อระหว่างม้วนกระดาษพอดี ซึ่งพอออกจากโรงพิมพ์ก็จะเข้าซองเลย ดังนั้นสำนักพิมพ์ไม่รู้เรื่องหรอก (แปลว่าเปลี่ยนได้สินะ)

แบบนี้ต้องโทษโรงพิมพ์ครับ ._.

mini review – Break Blade [Spoile]

หมายเหตุ: สปอย์ เล็กน้อย หรือไม่น้อย แต่อาจจะเยอะเลย

 

license9-2

 

Breakblade หรือ เบรคเบลด จากสำนักพิมพ์ ลัคพิมพ์

 

เป็นมังกะแนว ไซไฟ แฟนตาซี

โลกในเรื่อง เป็นโลกที่แห้งแล้งไม่มีทรัพยากรมากเท่าไหรนัก

และน้ำมันก็หมดไปจากโลกแล้ว

แต่ในโลกนี้มีสิ่งที่เรียกว่าหินควอชต์ ซึ่งประชากรส่วนใหญ่ มีพลังในการบังคับหินควอซต์นี้ได้ หรือก็คือพลังเวทย์

ดังนั้นจึงได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆ เกี่ยวกับหินควอซต์ และเอาไปใช้สร้างเครื่องจักรต่างๆ เรียกได้ว่าอุปกรณ์ต่างๆ นั้นใช้หินควอซต์ เกือบทั้งนั้นและ แน่นอนว่า อุปกรณ์ที่ใช้หินควอซต์สร้าง จะต้องใช้พลังเวทย์ในการขับเคลื่อนอุปกรณ์นั้นๆ ด้วย
demo9-1

ไรแก๊ท พระเอกของเรื่อง นั้นเป็นคนที่ไม่สามารถใช้เวทย์ได้

คนที่ไม่สามารถขยับหินควอซ์ได้จะถูกเรียกว่า Un-sorcerer หรือ ไร้ความสามารถ พระเอกของเราก็เป็นหนึ่งในนั้น

ไรแก๊ท เป็นคนที่สู้ชีวิตพอสมควร ตั้งแต่ ใช้พลังเวทย์ไม่ได้ทำให้โดนถากถางเสมอ ใช้เครื่องจักรหลายๆ อย่างแบบที่คนอื่นทั่วไปใช้ไม่ได้ บ้านมีฐานะยากจนทำให้เรียนไม่จบและยังอยู่ห่างไกลจากเมืองหลวงอีก

 

40

แต่ ชตากรรมของไรแก๊ท ก็ต้องเปลี่ยนไป เมื่อวันหนึ่ง โฮเซิ้ล กษัตริย์แห่งราชอาณาจักรคริชน่าได้เรียก ไรแก๊ท เข้าไปพบ ซึ่งจริงๆ แล้วทั้งคู่ เป็นเพื่อนกันในสมัยนักเรียน รวมถึง ชิกิวน์ ราชินีแห่งคริชน่า ด้วยเช่นกัน

แต่การเรียกไปครั้งนั้น ทำให้ไรแก๊ททราบความจริง ที่ไม่น่าจะได้ยินอีกอย่าง นั่นคือ ในขณะนี้ คริชน่า โดนรุกรานจาก สหพันธรัฐอาเธเนส ซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้าน และผู้นำกองทัพที่มาบุกนั้น คือ เซส ซึ่งเป็น 1 ในเพื่อนสนิทสมัยเรียนด้วยเช่นกัน

 

demo9-14

 

เซส กับ หน่วยรบของเขา และ โกเลม 5 เครื่อง เป็นหน่วยที่แข็งแกร่งมาก แม้ว่าจะมีเพียง 5 คน แต่กองทัพของคริชน่าก็ไม่สามารถทำอะไร เซส ได้เลย

ดังนั้นเวลาที่เมืองคริชน่าจะถูกตีแตกจึงขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้น ดังนั้นการเลือกยอมจำนน จึงเป็นทางออกที่ดีกว่า เพื่อรักษาชีวิตของประชาชนและทหาร ซึ่งโฮเซิ้ลเอง ก็เห็นด้วยกับความคิดนี้

แต่สิ่งที่ทำให้ ไรแก๊ท นั้นลำบากใจหนักยิ่งกว่าเดิมนั้นคือ โฮเซิ้ล ไม่สามารถยอมจำนนต่อ อาเธเนส ได้ง่ายๆ เพราะเงื่อนไขในการยอมจำนนคือ ชีวิตของ กษัตริย์ และทุกคนในครอบครัว

หากคริชน่ายอมจำนน นั่นหมายถึง โฮเซิ้ล และ ชิกิวน์ เพื่อนสนิทของเขาก็ต้องถูกประหารด้วย ไรแก๊ท โฮเซิ้ล และ แม่ทัพบัลด์ เป็นเพียง 3 คนเท่านั้น ที่รู้ความจริงข้อนี้

 

ชายหนุ่ม บ้านนอก ที่ “ไร้ความสามารถ” จะสามารถทำอะไรได้ ในสถานการเช่นนี้?

 

แต่ในสถานวิจัยของคริชน่าเอง มีสิ่งที่เรียกได้ว่าเป็นไพ่ตายอยู่ นั่นคือโกเลมโบราณ หรือ อันเดอร์โกเลม ที่ถูกขุดค้นพบในสถานที่แห่งหนึ่ง

51

ไม่มีใครรู้ว่า โกเลมตัวนี้ใครเป็นคนสร้าง

ไม่มีใครรู้ว่า โกเลมตัวนี้สร้างขึ้นเมื่อไหร

ไม่มีใครรู้ว่า โกเลมตัวนี้ทำงานยังไง

ผู้ที่จะตอบได้นั้น ก็ได้ตายกลายเป็นซากมัมมี่คาห้องนักบินไปแล้ว

คริชน่าได้พยายามวิจัยเกี่ยวกับโกเลมตัวนี้ทุกวีถีทาง เพราะเชื่อว่าโกเล็มตัวนี้ กำกุญแจแห่งชัยชนะไว้อยู่

แต่ชะตากรรมชอบเล่นตลกเสมอ

โฮเซิ้ล ได้พาไรแก๊ทมาดู โกเลม เพราะเชื่อว่า ไรแก๊ท ที่ไม่สามารถใช้พลังเวทย์ได้ นั้นอาจจะทำอะไรสักอย่างกับโกเลมตัวนี้ได้

ทันไดนั้น ทหารแห่งอาเธเนส ก็ได้บุกเข้าถึงบริเวณที่ขุดค้นพบโกเลมพอดี

แรงสั่นสะเทือนจากการสู้รบ ทำให้ไรแก๊ท บังเอิญเข้าไปนั่ง ในตัวโกเลมและ มือไปสัมผัสอะไรสักอย่างที่คิดว่าเป็นสวิทช์โดยบังเอิญ เครื่องยนต์ก็เริ่มทำงาน และเริ่มมีข้อความเป็น ภาษาโบราณ ไรแก๊ทจังไม่เข้าใจได้ว่ามันกำลังจะเกิดอะไรขึ้น

ชะตากรรมเล่นตลกอีกครั้ง เมื่อเขาบังเอิญไปทำให้อันเดอร์โกเลมกระโดด ออกจากบริเวณที่ถูกขุดขึ้นมา ตกไปสู่กลางสนามรบในขณะนั้นพอดี ทำให้ไรแก๊ทต้องเข้าสู้รบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

 

26

นั่นเป็นทั้งฝันร้ายของไรแก๊ท และฝันร้ายของ หน่วยรบ อาเธเนส เพราะ โกเลม ตัวนี้ดันมีประสิทธิภาพผิดกับคอมม่อนเซนส์ของคนทั่วไปมาก มันสามารถ ยกดาบขนาดใหญ่ด้วยแขนเพียงข้างเดียว ที่โกเลมทั่วไปไม่สามารถยกได้ด้วยแขน 2 ข้าง  มันสามารถกระโดดได้สูงกว่าโกเลมทั่วไปหลายเท่า และมันสามารถวิ่งด้วยความเร็วที่ผิดกับโกเลมทั่วไปเยอะมาก และผู้ที่จะบังคับโกเลมตัวนี้ได้มีเพียงแค่ ไรแก๊ทเท่านั้น แต่ไรแก๊ท ไม่ใช่คนที่ชอบต่อสู้เลยแม้แต่น้อย

แต่ไรแก๊ท ไม่สามารถหลีกเลี่ยงความจริงที่อยู่ตรงหน้าได้แล้ว เขาจะต้องสู้

ไม่ใช่เพื่อประเทศ

แต่เพื่อเพื่อนๆ ของเขาที่อยู่ตรงหน้า

แม้ว่า เขาจะต้องสู้กับเพื่อนรักอีกคนก็ตาม

 

 

เบรคเบลด ที่มาของชื่อเรื่อง มาจากการที่ตัว อันเดอร์โกเลม มีเขาและแผ่นหลัง ที่มีสภาพคล้ายกับดาบที่หักนั่นเอง

 

เรื่องนี้มีกลิ่นอาย หลายๆ อย่างที่ไม่สามารถหาได้จากการ์ตูน หุ่นยนต์ ทั่วๆ ไปครับ แต่ในขณะเดียวกัน ก็คาดว่ามีแรงบันดาลใจหลายๆ อย่างจาก เรื่องในอดีตด้วยเช่นกัน

ถึงแม่ว่าพระเอกจะจับพลัดจับพลูมาขับหุ่นโดยบังเอิญเหมือนเรื่องอื่นๆ แต่ไรแก๊ทของเรานั้น ไม่ได้เก่งเทพเหมือนอย่าง พี่เทพคิระ หรือ ป๋าอามุโร่ ของเราๆ กัน

ไรแก๊ทของเราเป็นเพียงปถุชนธรรมดา เท่านั้น และยังโดนดูถูกจากคนรอบข้างเพราะ ไม่มีพลังเวทย์ในการใช้อุปกรณ์หินควอทซ์ต่างๆ เหมือนอย่างที่คนอื่นทำได้กันด้วย

ตัวหุ่น อันเดอร์โกเลม หรือ เบรคเบลด หรือ เดลฟิงก์ (เป็นโค้ดเนมที่ใช้เรียกในเล่ม 3) เองนั้นถึงมันจะเป็นเทคโนโลยี โบราณ ที่ไม่มีในปัจจุบัน และมีพละกำลัง ที่มหาศาลเมื่อเทียบกับ โกเลม ตัวอื่น แต่ ตัวมันเองนั้น มีเกราะที่บางเอามากๆ และยังมีข้อจุกจิกวุ่นวาย อื่นๆ อีกมากมายในการใช้งาน เช่นความร้อนที่ขึ้นสูงเร็วมาก และหากเกิดการโอเวอร์ฮีทขึ้น จะไม่สามารถทำอะไรได้เลย

และพลังเวทย์ในเรื่อง เท่าที่เห็นก็เป็นเพียงพลังที่ใช้ในการบังคับหรือควบคุมหินควอทซ์เท่านั้น ไม่ได้ถึงขั้นเสกไฟ เสกสายฟ้า มายิงกันเหมือนเรื่องอื่นๆ

พระเอกนอกคอก และ โกเลมนอกคอก แต่กลับเป็นกุญแจแห่งชัยชนะ

นั่นทำให้เรื่องนี้มีอะไรที่แปลกกว่าการ์ตูนหุ่นยนต์ทั่วไปมาก

จากการที่อ่านมา 3 เล่ม ประเด็นหลักๆ ของเรื่อง จะวนเวียนอยู่ที่ตัวไรแก๊ทเอง ในสถานการที่ เลือกทางไหนก็ไม่ดีทั้งนั้น ไรแก๊ท จะหาทางออกให้กับตัวเองอย่างไร และเขาจะทำยังไงถึงจะสามารถรักษาชีวิตเพื่อนได้ทุกคน

 

ไรแก๊ท ไม่ใช่คนที่จะสู้เพื่อประเทศเลยแม้แต่น้อย

แต่หากเป็นเพื่อนสนิท เขายอมได้ทุกอย่าง แม้ว่าในใจของเขาจะไม่ชอบการต่อสู้สุดชีวิต

ด้านฉากสู้กันนั้น ก็วาดเก็บรายละเอียดได้ดีทีเดียวครับ แต่นั่นก็เลยทำให้รู้สึกว่า 3 เล่มผ่านไป เนื้อเรื่องยังไปไม่ถึงไหนเช่นกัน (อันที่จริงแล้วเรื่องนี้ เวลาสู้กันใช้หน้ากระดาษเปลืองมากครับหน้านึงมีเพียงแค่ 3 – 4ช่องเท่านั้นเอง) หากไม่โดนตัดจบไปซะก่อน ก็คงได้อ่านกันอีกนานน่าดู

 

จริงๆ ผมเองก็ไม่รู้หรอกนะว่าในไทยนั้น เรื่องนี้ขายดีแค่ไหน แต่เห็นว่าในญี่ปุ่นเรื่องนี้มียอดขายที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร

หวังลึกๆ ครับว่าจะได้เห็นเรื่องนี้เป็นอนิเม แต่ท่าทางจะยาก หากยอดขายในญี่ปุ่นไม่ค่อยดีแบบนี้

ขณะนี้ในไทยนั้นวางจำหน่ายเล่ม 3 แล้ว ส่วนในญี่ปุ่นปัจจุบันอยู่ที่เล่ม 5

ตัวฉบับภาษาไทยนั้น โดยรวมก็ชอบรูปเล่มนะ ปกในยังมี เกร็ดความรู้ต่างๆ ของตัวเรื่องอีก

แต่ว่า เล่ม 3 นั้นมีอาการพิมพ์เบลอ แบบเห็นได้ชัดๆ เป็นเพียงบ้างหน้า (อาการเดียวกับสมัย SIC พิมพ์เบลอทั้งเล่มนั่นหละครับ)

หวังว่าจะ แก้ไขในเล่มต่อๆ ไปนะครับ ( ‘ ‘)

 

 

37

ปล. มีตีท้ายครัวแน่ๆ ครับเรื่องนี้ ฟันธง!

 

credit: ภาพจาก สำนักพิมพ์ ลัคพิมพ์ และ onemanga

สำหรับตัวอย่างตอนที่ 1 ก็หาได้จากเว็บของสำนักพิมพ์เองครับ