ไม่ได้เล่นเกม JRPG แล้วรู้สึกอิ่มแบบนี้มานานมากแล้ว
สิริรวมประมาณ 110 – 120 ชั่วโมง
อาศัยเปิดกูเกิ้ลทรานสเลดแล้วเขียนคันจิแปลไปทีละคำๆ ก็ได้ศัพท์ใหม่เพิ่มมาบ้างเป็นผลพลอยได้
A hobby blog
ไม่ได้เล่นเกม JRPG แล้วรู้สึกอิ่มแบบนี้มานานมากแล้ว
สิริรวมประมาณ 110 – 120 ชั่วโมง
อาศัยเปิดกูเกิ้ลทรานสเลดแล้วเขียนคันจิแปลไปทีละคำๆ ก็ได้ศัพท์ใหม่เพิ่มมาบ้างเป็นผลพลอยได้
ไม่รู้ว่ารู้กันหรือไม่ แต่ในคอนเสิร์ตของ NieR Automata ที่ญี่ปุ่นเมือสองเดือนที่แล้วนั้น มีสคริปพิเศษเพิ่มห้าบทแยกเล่นกันตาม รอบคอนเสิร์ตห้ารอบ
จุดสำคัญก็คือบทที่สอง ที่เล่าต้นกำเนิดของ YoRHa
และบทที่ห้า ที่เป็นเนื้อเรื่องต่อจากตอนจบรูท E
ซึ่งก็มีแฟนๆ ต่างประเทศแปลสคริปทั้งห้าบทแล้วรวบรวมเอาไว้แล้วที่นี่
ส่วนตัวคอนเสิร์ต มีคนอัดเก็บเอาไว้ (เข้าใจว่าอัดต่อมาจาก streaming ของที่อื่นอีกที) แต่มีแค่ของสองบทสุดท้ายเท่านั้น
ถ้ามีเวลาก็อยากให้ลองดูตัวคอนเสิร์ตกัน ตัวบทที่ห้านั้นทำมาได้ดีมากครับ
ตัวผมเองเคยเล่นเกมเก่าจริงๆแค่ Drag on Dragoon 1 เท่านั้น แถมเล่นไม่จบด้วย ส่วนที่เหลือคือนั่งดูน้องเล่นหมด ส่วนที่มาเล่นภาคนี้สาเหตหลักจริงๆ คือ ดีไซน์คาแรกเตอร์ สาเหตรองคือแพลตินั่มเกม
เริ่มแรกมาผมเล่นที่ระดับ Hard ทันที ซึ่งช่วงดันมาคุ (ขับยานบิน) ช่วงแรก ก็ตายไปสองสามรอบแล้ว ในระดับฮาร์ดตัวเรานั้นเปราะบางมาก โดนยิงสองนัดร่วง ซ้ำพอเท้าแตะพื้นได้เป็นครั้งแรก ก็โดนฝูงกี้ๆ รุมทึ้งตายในพริบตา ก็เลยจำใจยอมกลับไปเล่น Normal แทน ขี้เกียจมานั่งเล่น prologue วนหลายๆ รอบ
หัวไตเติ้ลหยิบมาจากโพสคนอื่นในเฟสบุ๊คอีกทีนึง
ก็แพล๊ตเกมนี้ไปได้สักพักละ จริงๆ ข้อดีข้อเสียเกมห่วยยังไงดียังไง เว็บรีวิวหรือตามบอร์ดเกมทั่วไปก็คงจะพูดถึงกันไปหมดแล้ว
โดยรวมผมก็จัดให้ภาคนี้เป็นเกมที่สนุกอยู่นะ playtime รวมก็ 80+ ชั่วโมงทีเดียว (โดยปรกติถ้าเกมมันไม่สนุกก็น่าจะหยุดเล่นไปตั้งแต่เนินๆ แล้ว คงไม่นั่งเล่นได้จนเกือบ 100 ชั่วโมงหรอกมั้ง?)
จุดที่ชอบนอกเหนือจากเป็น open world กับเกมเพลย์ทั่วไป ก็คือไอ้ถ่ายรูป กับ อาหารนี่ละ ดูมันไม่เห็นจะเกี่ยวข้องกับตัวเกมหลักจริงๆ เลย แต่ระบบถ่ายรูปอัตโนมัติ (มีเพื่อนในเกมถ่ายรูปให้ตลอดเวลา) นี่เป็นสิ่งที่บรรเจิดที่สุดของ FFXV เลยก็ว่าได้ เนื่องจาก FFXV เป็นเกมที่ภาพสวยมากอยู่แล้ว เราก็เลยได้ภาพถ่ายสวยๆ ออกมาเป็นระยะๆ โดยที่คนเล่นไม่ต้องทำอะไรเลย
อันที่จริง ก็ไม่ได้ตั้งใจจะเล่น WoFF หรอก แต่พอดีว่าร้านเกมเจ้าประจำโทรมาแจ้งว่า WoFF ที่จองไว้ของเข้าแล้ว ไอ้เราก็ห๊ะ มีเคยไปจองด้วยเหรอ นั่งนึงแปบนึงก็เออ เคยจองจริงๆ ด้วยจองไปพร้อมกับ FFXV นะแหละ แล้วก็ลืมไปเลย ก็เลยอ่ะๆ เล่นก็ได้
ระบบของเกมค่อนข้างอิงกับไฟนอลยุคเก่า แต่มีการปรับ UI ให้ออกคำสั่งได้ง่ายขึ้น คือเราสามารถเซ็ตช็อคคัทลงบนปุ่มต่างๆ ได้ทำให้ไม่ต้องลากเคอเซอร์ไปมาจิ้มที่ตัวคำสั่ง หรือจะปรับไปใช้ UI แบบคลาสสิกก็ได้ (สามารถปรับไปปรับมาได้ตลอดเวลาระหว่างสู้) ทำให้การใส่คำสั่งค่อนข้างลื่นไหลมาก